ความจริงวันนี้ต้องเดินทางเข้าเมืองมุด่ง เพื่อหารถเดินทางไปไหว้พระ แต่ขัดศรัทธาญาติโยมไม่ได้ เลยต้องยอมอยู่ร่วมงานทำบุญฉลองพระอุปคุตด้วยกัน…
ทำวัตรเช้าท่ามกลางอากาศเย็นสดชื่น ที่นี่หนาวน้อยกว่าด่านเจดีย์สามองค์ตั้งเยอะ จึงไม่ต้องสงสัยว่าอาตมาสรงน้ำหรือไม่ ? เมื่อทางบ้านเจ้าภาพฉลองพระพร้อม ก็มานิมนต์พระชักแถวไปฉันเช้าได้ เขาจัดซุ้มพระอุปคุตไว้สวยงามตามประเพณีของเขา…
งานทำบุญเลี้ยงพระฉลองพระอุปคุตของชาวบ้านหนองบัว
พระสงฆ์ทั้งหมด ๙ รูปพอดี ฉันเช้าเสร็จญาติโยมถวายปัจจัยมารูปละ ๕๐๐ จั๊ต ของครูบาญาณกับท่านนาวินมีพิเศษต่างหาก ซึ่งนับว่ามากโขสำหรับชาวบ้านที่นี่ แสดงออกถึงศรัทธาอันแรงกล้าของเขา ครูบาญาณนำกล่าวอนุโมทนาแล้วกลับวัด…ยังใช้ไม่เป็นเลย..! ท่านนั่งต่อสายง่วนอยู่รูปเดียว…
อาตมาซักผ้าบ้าง เรียกว่าจงซักเสียเมื่อมีโอกาสที่จะซัก เพราะในระหว่างเดินทาง บางทีอาจจะต้องหมกเป็นเดือน..! เรียบร้อยแล้วมาบันทึกการเดินทาง ผู้ใหญ่องไลมาบอกว่า มีคนจะขอตามไปไหว้พระด้วย ท่านนาวินให้รวบรวมคนให้พอคันแล้วเช่ารถไปกันเอง…
เจ้าของบ้านที่จะเป็นเจ้าภาพฉลองพระอุปคุตคืนนี้ นำดอกไม้ธูปเทียนมาอาราธนาให้ไปสวดมนต์เย็น อาตมารับไว้ตามศรัทธา ขณะที่ญาติโยมพากันหิ้วปิ่นโตมาวัดเตรียมเลี้ยงเพล จัดอาหารเสร็จแล้ว พากันมาเป็นกำลังใจให้ท่านนาวินต่อเครื่องเสียง…
ครูบาน้อยทดสอบเครื่องตัดหญ้า
รวมกันมาฉันเพล จากนั้นต่างคนต่างทำหน้าที่ของตัว ท่านนาวินละจากเครื่องเสียงไปทดสอบเครื่องตัดหญ้า อาตมาตามไปดูผลงาน ตัดหญ้าทั่วแล้วมารดน้ำต้นไม้ พอดี“ปะไล” หนุ่มใหญ่ผู้ระลึกชาติได้มาคุยด้วย…
ทำไปทำมาเป็นเรื่องอีกจนได้ พ่อเจ้าประคุณเอาเสื้อขาวมาให้ช่วยลงยันต์ ถามว่ามีแต่คนรักทั้งหมู่บ้านแล้วจะลงไปทำไม ? แกบอกว่าจะเอาไว้ให้ลูกชายคนเล็ก เลยต้องทำให้ต่อหน้าครูบาญาณนั่นแหละ แถมพ่อนักระลึกชาติยังย้ำอีกว่า…
“ได้ของครูบาอาจารย์ที่มีศีลมีธรรมมันค่อยมั่นใจหน่อย…” นี่เอ็งไม่เกรงใจพระผู้ใหญ่เลยนะ จะพาข้าซวยไปด้วยกระมัง ? แกได้ทิพจักขุญานแจ่มใสมาก อยากรู้อะไรก็ถาม“พระ”เอา ใครเป็นอะไรปิดแกไม่ได้ และดันปากสว่างซะด้วย..!
อาจารย์โมเช่ (กลาง) สมัยที่ยังทำปรอทอยู่ (ก่อนบวช)
หลวงตาเย็นคุยเรื่องการไปเรียนทำปรอทสำเร็จให้ท่านชาฟัง หลวงตาเอ๋ย..มันเป็นแค่วิชามัยฤทธิ์เท่านั้น หาใช่ทางหลุดพ้นไม่ อาตมาเลิกมาแล้ว หลังจากที่ไปขลุกอยู่กับท่านโมเช่ พระสหายนักทำปรอทมาพักใหญ่…
โยมทองแดงทายกประจำวัดหนองบัว เอาเงินที่ท่านนาวินฝากไว้มาให้ เงินนี้ท่านชา ท่านป๊อป ท่านตู่ ฝากแลกไว้ตั้งแต่ตอนงานกฐิน อาตมาเองก็ฝากแลกแบ๊งค์ย่อยไว้ ๓,๕๐๐ จั๊ตเช่นกัน…
ท่านป๊อปกับท่านตู่ขอแลกไปคนละพันบ้าง แปดร้อยบ้าง พอท่านนาวินคิดตัวเลขเสร็จ งัดเอาแบ๊งค์ย่อยที่ได้มาตอนกฐินออกมาเป็นหมื่น ๆ จั๊ต เล่นเอาหงายท้องกันเป็นแถว หายบ้าแบ๊งค์ย่อยไปเลย..!
ท่านเจ้าอาวาสวัดหนองบัวหมดปัญญาแบ่งสันปันส่วน ยกถุงปุ๋ยให้อาตมาจัดการแทน พอคิดตัวเลขเสร็จท่านนาวินเหลือแต่ตัว..! “ผมเอาเงินที่อาจารย์ฝากมาใช้ซื้อของไปก่อน เพลินไปหน่อย เกือบไม่มีให้พวกท่านซะแล้ว..!”
แบ่งกันแบกเงินแบบยุติธรรม นับกันจนหูตาลาย เข็ดเขี้ยวเงินพม่าไปอีกนาน อาตมานับเงินกองกลางแล้ว มันหายไปไหนตั้งเยอะแยะ? ไล่ไปไล่มากลายเป็นท่านป๊อปจ่ายขาดไป ๑๐,๐๐๐ จั๊ต เอามาซะดี ๆ..!
พม่าใช้ธนบัตรทุกรุ่น แต่สภาพเก่าจน “เน่า” แทบทั้งนั้น..! ที่เห็นนี่เป็นประเภท “คัด” แล้ว
เลิกนับเงินไปทำวัตรเย็น จากนั้นไปสวดมนต์เย็นที่บ้านโยม อาตมาไหลตามเขาไปแบบลื่น ๆ ท่านชา ท่านป๊อป ท่านตู่ นั่งเงียบฉี่ “นิมนต์ท่านอาจารย์ตามสะดวกเถอะครับ ผมไปกันไม่รอดหรอก ไม่ใช่ปฏิสัมภิทาญานแบบท่านอาจารย์นี่ครับ..!” ท่านชาว่า…
ทางนี้เวลาพระสวดเขาไม่พนมมือเหมือนบ้านเรา บทสวดก็แบบเดียวกัน เพียงแต่เขาขึ้นบทขัดทุกบทแบบสวดมนต์หลวงบ้านเราเท่านั้น สวดเสร็จเขาถวายน้ำร้อน น้ำชา หมากพลู บุหรี่ กันแบบเป็นล่ำเป็นสันเลยทีเดียว…
ทางพม่าเวลาสวดมนต์พระท่านไม่พนมมือเหมือนกับบ้านเรา
ผู้ใหญ่องไลประกาศบอกญาติโยมว่า พวกเราจะไปกราบพระไหว้เจดีย์กัน ญาติโยมถึงไม่มีกำลังไปเอง ก็ให้ช่วยกันบริจาคปัจจัยคนละเล็กคนละน้อย เป็นค่ารถค่าอาหารของพระ ให้พระไปไหว้พระแทนก็ได้บุญเหมือนกัน…
คุยเรื่องสัพเพเหระกันจนสองทุ่มเศษก็ขอตัวกลับ หลวงตาเย็นยังไม่หายมันเรื่องปรอท ตามมาเล่าเรื่องต่อ ท่านนาวินจัดของเตรียมเดินทาง อาตมาเองขอนอนก่อนดีกว่า เก็บแรงไว้ตะลุยเมืองพม่าต่อไป…
ที่มาจากเว็บไซร์วัดท่าขนุน ตอนเส้นทางพระโพธิสัตว์




















