บุคคลที่ตรงต่อเวลากลายเป็นบุคคลที่ต้องเสียเวลา ไปรอบุคคลที่ไม่ตรงต่อเวลาเสมอ ซึ่งการตรงต่อเวลานั้น เป็นการวัดบารมีที่ชัดเจนที่สุด ก็คือทำให้เห็นว่า ท่านทั้งหลายมีสัจจบารมีเต็มแล้วหรือไม่ ? ถ้าหากว่าเป็นบุคคลที่มีสัจจบารมีเต็มครบถ้วนสมบูรณ์ ทุกอย่างจะเป็นไปตามเวลา "มีแต่ก่อน ไม่มีหลัง" แต่ถ้าหากว่าสัจจบารมียังบกพร่องอยู่ ก็จะมีความผิดพลาด ไม่ตรงเวลากันเป็นเรื่องปกติ
ส่วนพระของเรานั้นจะต้องเป็นผู้มีจิตใจที่มั่นคง ไม่หวั่นไหวไปกับ ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข หรือว่าความ เสื่อมลาภ เสื่อมยศ นินทา ทุกข์ ในโลกธรรมทั้ง ๘ ในเมื่อเป็นเช่นนั้น เรื่องทั้งหลายเหล่านี้จึงไม่ควรที่จะทำให้เรายินดียินร้ายมากจนเกินไป
เพียงแต่ว่าพระภิกษุสงฆ์ของเรานั้น ควรที่จะรักษากำลังใจของตนให้มั่นคง ถ้าหากว่าไม่หวั่นไหวไปกับ ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข ไม่หวั่นไหวไปกับการเสื่อมลาภ เสื่อมยศ นินทา ทุกข์ ก็แปลว่ากำลังใจของท่านทั้งหลายนั้นอยู่ในด้านที่ดี มีความมั่นคงเพียงพอที่จะฝ่ากระแสกิเลสไปสู่จุดหมายปลายทางได้ ก็คือการบวชเข้ามาเพื่อความพ้นจากกองทุกข์เข้าสู่พระนิพพาน
ถ้าหากว่าท่านไม่สามารถที่จะไปให้พ้นทุกข์ได้ในชาตินี้เลยทีเดียว อย่างน้อยท่านทั้งหลายก็ยังมีเกาะ ก็คือที่มั่นของตนเองอยู่กลางกระแสแห่งโอฆสงสาร หรือถ้าหากว่าก้าวขึ้นเหยียบฝั่ง แม้ว่าจะไม่เต็มเท้านัก แต่อย่างน้อย ๆ ท่านก็ไม่ต้องลอยคออยู่ในทะเลทุกข์เนิ่นนานเหมือนอย่างกับคนอื่นเขาดังนั้น..เรื่องทั้งหลายเหล่านี้เป็นเรื่องที่บรรดาพระภิกษุสงฆ์ทั้งหลายควรที่จะต้องฝึกฝนกำลังใจของตนเอง เมื่อประสบกับสิ่งที่ดี ก็อย่าให้ยินดีฟูฟ่องจนเกินไป เมื่อประสบกับสิ่งที่ร้าย ก็อย่ายินร้ายจนกระทั่งห่อเหี่ยวฟุบแฟบ ถึงขนาดหมดกำลังใจท้อแท้ไปเลย
เรื่องทั้งหลายเหล่านี้ก็ขึ้นอยู่กับแต่ละคน ว่าจะได้รับการฝึกฝนขัดเกลามามากน้อยเท่าไร เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่า
ครูบาอาจารย์แต่ละรูปแต่ละท่านนั้น นอกจากมีความสามารถไม่เสมอกันแล้ว ยังมีแนวทางในการสั่งสอนลูกศิษย์ลูกหาพระภิกษุสามเณรต่าง ๆ กันไป ท่านใดที่มีครูบาอาจารย์เข้มงวดกวดขัน พระอุปัชฌาย์อาจารย์ก็จะบ่มเพาะ ขัดเกลาท่านทั้งหลาย ให้ไปอยู่ในกระแสด้านที่มีโอกาสจะล่วงพ้นจากกองทุกข์เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันอังคารที่ ๒๘ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)





















