แบ่งปัน:
การแจ้งเตือน
ลบทั้งหมด

พิธีกรรมบวงสรวงและทรงเจ้าแบบมอญ มีปัญหาใหญ่อยู่ ๒ ประการด้วยกันคือ

12 กระทู้
2 ผู้ใช้
0 Reactions
1,428 เข้าชม
กระทู้: 52
หัวข้อเริ่มต้น
(@ไม่ระบุชื่อ 2)
เข้าร่วม: 3 ปี ที่ผ่านมา

โพสโดย: @ไม่ระบุชื่อ

ใครก็ตามที่โดนบรรดาผู้ที่มีเวรมีกรรมผูกพันเกี่ยวเนื่องกันมา พยายามจะเอาเป็นร่างทรง ถ้าหากว่าเราไม่อนุญาต วงสรวงเขาก็ทำอะไรไม่ได้ แต่เขากลั่นแกล้งเราให้ลำบากได้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันศุกร์ที่ ๓ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)

ที่มาจากเว็บไซร์วัดท่าขนุน

https://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=9317


ตอบ
กระทู้: 52
หัวข้อเริ่มต้น
(@ไม่ระบุชื่อ 2)
เข้าร่วม: 3 ปี ที่ผ่านมา

โพสโดย: @ไม่ระบุชื่อ

เรื่องพวกนี้ถ้าหากว่าใครเจอ สามารถให้คำแนะนำแก่เขาได้ เพราะว่าโลกอื่นเขาไม่โกหกกัน ถ้าหากว่ารับปากแล้วก็คือเป็นไปตามนั้น ส่วนใหญ่ที่ผ่าน ๆ มาก็มักจะไปขับไล่เขา การขับไล่ใช้ได้แค่ชั่วครู่ชั่วยามเท่านั้น ประมาณว่าอยู่ต่อหน้าเราก็ไป ห่างเราไปเมื่อไรก็กลับมา เหตุที่เป็นเช่นนั้นเพราะว่าเขาผูกบุญผูกกรรมกันมา เป็นสิทธิ์ของเขาเลย แต่เจ้าของร่างกายก็มีสิทธิ์ในร่างกายของตนเอง ดังนั้น..ถ้าดื้อพอ เราไม่ให้ "ลง" นี่ เขาจะ "ลง" ไม่ได้..!

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันศุกร์ที่ ๓ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)

ที่มาจากเว็บไซร์วัดท่าขนุน

https://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=9317


ตอบ
กระทู้: 52
หัวข้อเริ่มต้น
(@ไม่ระบุชื่อ 2)
เข้าร่วม: 3 ปี ที่ผ่านมา

โพสโดย: @ไม่ระบุชื่อ

พวกเรารู้จักสังเกต จะเห็นว่าบุคคลที่หลุดออกไปได้นั้น จะเลิกดิ้นเลิกอะไรทุกอย่าง บางคนนอนนิ่งเป็นขอนไม้ไปเลย เพราะว่าสภาพจิตออกไปแล้ว แต่ถ้ากำลังพอแล้ว สภาพจิตไปกลัว จะออกได้ยากมาก ดิ้นอยู่นั่นแหละ บางคนดิ้นจนเหนื่อยเกือบขาดใจตาย เพราะว่าไปไม่ได้สักที กำลังพอที่จะไปแต่ใจดันไปกลัว แปลว่าถ้าเราเลิกกลัวเมื่อไร ก็จะฝึกมโนมยิทธิสำเร็จได้เมื่อนั้น

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันศุกร์ที่ ๓ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)

ที่มาจากเว็บไซร์วัดท่าขนุน

https://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=9317


ตอบ
กระทู้: 52
หัวข้อเริ่มต้น
(@ไม่ระบุชื่อ 2)
เข้าร่วม: 3 ปี ที่ผ่านมา

โพสโดย: @ไม่ระบุชื่อ

เหตุใดการที่เราฝึกมโนมยิทธิจึงต้องพิจารณาตัดร่างกาย ก็เพื่อให้ปัญญาของเราเห็นอย่างชัดเจนว่าร่างกายนี้ไม่มีอะไรเป็นเราเป็นของเรา ไม่มีอะไรให้ต้องห่วงใยต้องกังวล มีสภาพปฏิกูลน่ารังเกียจเป็นปกติ เจ็บไข้ได้ป่วย หิวกระหาย หนาวร้อน เป็นปกติ มีความทุกข์ประเดประดังเข้ามาทุกวันเป็นปกติ ถ้าเห็นชัดเจนก็จะรู้สึกเบื่อ แล้วถอนความยึดมั่นถือมั่นออกมา

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันศุกร์ที่ ๓ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)

ที่มาจากเว็บไซร์วัดท่าขนุน

https://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=9317


ตอบ
กระทู้: 52
หัวข้อเริ่มต้น
(@ไม่ระบุชื่อ 2)
เข้าร่วม: 3 ปี ที่ผ่านมา

โพสโดย: @ไม่ระบุชื่อ

เพียงแต่ว่าความเป็นทิพย์นั้นเป็นเรื่องอัศจรรย์มาก สิ่งที่เราเห็นแค่พริบตาเดียว ถ้าให้อธิบายบางทีต้องใช้ตัวหนังสือหลายหน้ากระดาษ เพราะว่าความเป็นทิพย์ที่ปรากฏขึ้นแค่ชั่วพริบตาเดียว รายงานสารพัดเรื่องให้เราในครั้งเดียวเลย เร็วกว่าซูเปอร์คอมพิวเตอร์อีก..!

ในเมื่อพูดมาถึงตรงนี้ เรื่องอื่นที่ข้ามเลยไปไม่ว่ากัน แต่สำหรับท่านที่ฝึกมโนมยิทธิเท่าไรก็ไม่ได้ หรือว่าถึงไปได้ก็ไม่ชัดเจน ให้เอาคำพูดที่กระผม/อาตมภาพบอกไว้นี้ ไปฝึกหัดขัดเกลาตัวเอง แล้วสิ่งที่เราคิดว่ายากเย็นแสนเข็ญนั้น กระผม/อาตมภาพขอยืนยัน "ใครที่คิดได้ ฝึกมโนมยิทธิได้ทุกคน เพราะว่า "มโน" ในความหมายหนึ่งคือห้วงนึก คือความคิดนี่เอง"

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันศุกร์ที่ ๓ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)

ที่มาจากเว็บไซร์วัดท่าขนุน

https://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=9317


ตอบ
แบ่งปัน: